รัฐบาลแม่งหลอกลวงประชาชน ว่ารถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย จะขึ้นราคา 42 บาท

[Admin]

หลังจากมีรายงานข่าวว่านายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการและผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)แจ้งว่าตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2556 บริษัทฯ จะปรับราคาค่าโดยสารที่เรียกเก็บสำหรับรถไฟฟ้าบีทีเอสในส่วนของเส้นทางสัมปทานระยะทาง 23.5 กิโลเมตร จากสถานีหมอชิตถึงสถานีอ่อนนุช และจากสถานีสนามกีฬาแห่งชาติถึงสถานีสะพานตากสินจาก 15 – 40 บาท เป็น 15 – 42 บาท

ทั้งนี้ แนวคิดเรื่องค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดเส้นทาง เป็นนโยบายหาเสียงมาตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย จนมาเป็นพรรคเพื่อไทย และล่าสุดกับในเวทีผู้ว่าฯกทม.ที่ผ่านมา

ว่าด้วยเรื่องของนโยบายลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ พรรคเพื่อไทย ชูนโยบายรถไฟฟ้าบีทีเอส 20 บาทตลอดสาย ซึ่งจะสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลเพื่อไทย แม้จะไม่ได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม. แต่ก็เป็นรัฐบาลควบคุมดูแลทั้งหมด

ขณะเบอร์ 16 ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ก็ชูนโยบายจะลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส ส่วนต่อขยายจากอ่อนนุชถึงแบริ่ง และจากตากสินถึงบางหว้า จากราคา 15 บาท เหลือ 10 บาท และจะลดค่าโดยสารให้เหลือ 10 บาทตลอดสาย

ขณะที่ในความเป็นจริงทางบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด หรือบีทีเอสซี ได้ออกข่าวระบุรถไฟฟ้าบีทีเอสมีแผนจะปรับขึ้นราคาค่าโดยสารในเดือนเม.ย.นี้ อันเนื่องมาจากต้องแบกรับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรง 300 บาท ประกอบกับต้นทุนค่าไฟ ค่าซ่อมบำรุงเพิ่มขึ้นถึงเกือบ 80%

ผลกระทบดังกล่าวจึงตกมาอยู่ที่ประชาชน เพราะปัจจุบันเงินเดือนปริญญาตรี 15,000 บาท ก็ยังไม่ได้ดำเนินการ ส่วนค่าแรง 300 บาท ก็ยังมีปัญหา เศรษฐกิจก็ย่ำแย่ ประชาชนเดือนร้อนกันเป็นแถว

แต่สิ่งหนึ่งที่สัมผัสได้คือ บรรดานักการเมืองที่ร่ำรวย อู้ฟู้ กินงบหลวงกันกระหน่ำ เรื่องนี้ต้องให้ประชาชนจับตาและตรวจสอบอย่างใกล้ชิด

เพราะถ้าอยู่เฉยๆ ก็โดนนักการเมืองเลวๆ หลอกลวงอยู่ร่ำไป

ขณะที่ ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ หรือ กรุงเทพโพล ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของผู้ใช้แรงงาน เรื่อง มุมมองแรงงาน หลังได้รับผลกระทบค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไป พบว่า ผู้ใช้แรงงานส่วนใหญ่ร้อยละ 75.1 ไม่มีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ร้อยละ 24.9 อยู่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

สาเหตุที่ผู้ใช้แรงงานไม่ทำงานในภูมิลำเนาที่เกิดร้อยละ 64.8 ระบุว่ามีงานให้เลือกน้อย ร้อยละ 33.4 ระบุว่าในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีสวัสดิการที่ดีกว่า ร้อยละ 33.3 ระบุว่าได้ค่าแรงต่ำกว่า 300 บาท และหากสามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้ ร้อยละ 80.0 ตั้งใจว่าจะกลับไปทำงานในภูมิลำเนาเกิด ร้อยละ 20.0 ตั้งใจจะไม่กลับ

อย่างไรก็ตาม สำหรับความกังวลว่าจะตกงานของแรงงานส่วนใหญ่ หลังจากที่มีการปรับค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ซึ่งมีผลทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี มีการลดพนักงานลง 15% เพื่อประคองกิจการให้อยู่รอด พบว่า 73.2 กังวลน้อย – น้อยที่สุด ขณะที่ร้อยละ 26.8 กังวล – กังวลมากที่สุด

ขอขอบพระคุณข่าวเตือนสติชาวกรุงเทพมหานคร เป็นอย่างสูงที่ไอรัฐบาล Varan มันหลอกหลวงประชาชนจาก
www.bangkok-today.com

[Admin]